ฉีดผิวขาว ลดน้ำหนัก จี้ไฝ เชียงใหม่

Facebook Instagram ENG | CHA

เทคนิคไม่ลับกระชับสัดส่วน ลดไขมันกับพรีมาดอนน่าคลินิก เชียงใหม่


เทคนิคไม่ลับกระชับสัดส่วน ลดไขมันกับพรีมาดอนน่าคลินิก

เทคนิคไม่ลับกระชับสัดส่วน ลดไขมันกับพรีมาดอนน่าคลินิก

 

เทคนิคไม่ลับกระชับสัดส่วน ลดไขมันกับพรีมาดอนน่าคลินิก

ไม่ว่าใครๆ ก็อยากมีหุ่นเพรียวสวยกระชับกันทั้งนั้น เพราะการมีรูปร่างดีทำให้สาวๆ อย่างเรารู้สึกมั่นใจ จะสวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวย แต่การได้มาซึ่งหุ่นดีนั้นบางครั้งก็ยากเย็น วันนี้เรามีวิธี กระชับสัดส่วน ลดไขมันในเชียงใหม่ มาแนะนำสำหรับสาวๆ ที่อยากมีหุ่นเพรียวสวย ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความแตกต่างกัน ทั้งประสิทธิภาพ ราคา และระยะเวลา ให้สาวๆ ลองใช้เป็นแนวทางสำหรับเลือกวิธี กระชับสัดส่วน ลดไขมัน ของตัวเองดู

การกระชับสัดส่วน ลดไขมัน ทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสำหรับกระชับสัดส่วนมากมายที่ให้บริการตามโรงพยาบาลและคลินิกความงาม ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างรวดเร็ว ทันใจ แต่ก็แลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ตัวอย่างเทคโนโลยีกระชับสัดส่วนที่เป็นที่นิยม ได้แก่

1) การใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency)

การกระชับสัดส่วนด้วยคลื่นวิทยุ หรือ RF เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุผ่านเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ และกระตุ้นให้ไขมันใต้ผิวถูกสลายได้ดีขึ้น วิธี RF นั้นเห็นผลค่อนข้างไว และสามารถสลายไขมันได้แทบทุกส่วนของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ การใช้ RF จะช่วยกำจัดเซลลูไลท์ ทำให้สัดส่วนดูกระชับและผิวเรียบเนียนเต่งตึงขึ้น

2) การใช้ความเย็นบำบัด (Cryptotherapy)

วิธีนี้จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Coolsculpting ซึ่งเป็นกำจัดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ทิ้งรอยแผลไว้บนผิวหนัง วิธี Cryptotherapy เหมาะจะใช้กระชับสัดส่วนในบริเวณที่มีไขมันสะสมและกำจัดออกได้ยาก เช่น หน้าท้องและข้างลำตัว โดยการรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และหลังรักษาต้องใช้เวลานาน 2-3 เดือน กว่าชั้นไขมันใต้ผิวจะเรียงตัวใหม่และบางลงกว่าเดิม จึงจะเห็นผลว่าสัดส่วนดูกระชับขึ้น

3) การใช้รังสีอินฟราเรด (Infrared)                                                                               

เป็นการปล่อยรังสีอินฟราเรดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเพิ่มอุณหภูมิในระดับเซลล์ อุณหภูมิที่สูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการเผาผลาญไขมัน รวมถึงกระตุ้นการขับของเสียใต้ผิวออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ จึงเป็นวิธีที่ช่วยกระชับสัดส่วนให้สวยงาม และทำให้ผิวพรรณดูเรียบเนียนสดใสยิ่งขึ้น

4) การใช้คลื่นเสียง (Ultrasound)

เทคโนโลยีปัจจุบัน เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง หรือ High Intensity Focus Ultrasound (HIFU) มาใช้สลายไขมันเฉพาะจุดอย่างแม่นยำ โดยคลื่นเสียงจะถูกส่งผ่านไปยังใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดฟองอากาศภายในเซลล์ไขมันจนเนื้อเยื่อไขมันแตกออก จากนั้นไขมันจะถูกดูดซึมและผ่านการเผาผลาญตามกระบวนการธรรมชาติ การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเท่านั้น วิธีนี้เป็นวิธีกระชับสัดส่วนที่นิยมมาก เนื่องจากเห็นผลไวและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการรักษา แต่ข้อจำกัดคือ จะใช้ได้กับผู้ที่มีไขมันใต้ชั้นผิวมากพอสมควรเท่านั้น เพื่อไม่ให้คลื่นเสียงไปทำลายเนื้อเยื่อที่ล้อมรอบ

5) การใช้คาร์บอกซี่ (Carboxytherapy)

เป็นการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อไขมันใต้ชั้นผิว วิธีนี้สามารถใช้กระชับสัดส่วนเฉพาะจุดได้ดี และไม่เป็นอันตราย เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถละลายน้ำได้ จึงถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ด้วยกระบวนการปกติ

6) การใช้เครื่องสุญญากาศ (Vacuum massage)

เครื่องสุญญากาศจะเป็นเครื่องนวดที่ใช้ดูดผิวและกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิว เครื่องสุญญากาศจะช่วยให้ไขมันถูกกำจัดได้ดี ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และลดการคั่งของน้ำและของเสีย เป็นการช่วยกำจัดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวเรียบเนียน และกระชับสัดส่วนบริเวณต่างๆ ทั้ง ต้นขา สะโพก หน้าท้อง ให้ดูสวยงาม

    บทความดังกล่าวเป็นเพียงเทคนิคเล็กน้อยที่ช่วยลดสลายไขมันเป็น ไม่ได้เป็นวิธีทั้งหมด ซึ่งทางพรีมาดอนน่าคลินิกเป็นสถาบันดูแลความงามทั่วเรือนร่าง พร้อมที่จะให้บริการและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณโดยผ่านการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ซึ่งมีเทคนิคการแพทย์ที่หลากหลายพร้อมให้บริการลูกค้าทุกๆท่าน

บทความอื่นๆ


ดูแลกำจัดขนกับพรีมาดอนน่าคลินิก
ดูแลกำจัดขนกับพรีมาดอนน่าคลินิก

ดูแลกำจัดขนกับพรีมาดอนน่าคลินิก

โรคหูดหงอนไก่ หายเองโดยไม่ต้องรักษาได้จริงหรอ?
โรคหูดหงอนไก่ หายเองโดยไม่ต้องรักษาได้จริงหรอ?

โรคหูดหงอนไก่ หายเองโดยไม่ต้องรักษาได้จริงหรอ?

เมโสมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบช่วยอะไรบ้าง?
เมโสมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบช่วยอะไรบ้าง?

เมโสมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบช่วยอะไรบ้าง?

คีลอยด์อาจไม่ได้อันตราย แต่หากมีอาการคัน หรือเจ็บและมีขนาดใหญ่ขึ้นต้องรีบรักษาก่อนที่จะสายเกินแก้!
คีลอยด์อาจไม่ได้อันตราย แต่หากมีอาการคัน หรือเจ็บและมีขนาดใหญ่ขึ้นต้องรีบรักษาก่อนที่จะสายเกินแก้!

คีลอยด์อาจไม่ได้อันตราย แต่หากมีอาการคัน หรือเจ็บและมีขนาดใหญ่ขึ้นต้องรีบรักษาก่อนที่จะสายเกินแก้!

ตอบคำถามผ่าตัดหูคีลอยด์ที่พบบ่อยที่สุด!
ตอบคำถามผ่าตัดหูคีลอยด์ที่พบบ่อยที่สุด!

ตอบคำถามผ่าตัดหูคีลอยด์ที่พบบ่อยที่สุด!