สัดส่วนที่ย่อนคล้อยไม่กระชับและเซลลูไลท์ล้วนเป็นผลของไขมันไม่ดีที่แทรกอยู่ในชั้นผิวหนัง หรือการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกวิธีจึงทำให้มวลกล้ามเนื้อและไขมันที่หายไปเหลือแต่ผิวหนังที่ย่อนคล้อย เปรียบเสมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมจนเหลือแค่ลูกโป่งที่เหี่ยวย้วย ซึ่งเมื่อประสบกับปัญหานี้ ผู้ที่ประสบกับปัญหาต่างก็หาวิธีเพื่อกำจัดออกไป
ในวันนี้ทางคลินิกพรีมาดอนน่า ขอนำเสนอวิธีการกำจัดเซลลูไลท์และกระชับสัดส่วนเพื่อผิวที่กระชับและเรียบเนียนด้วยระบบ Endermology เป็นวิธียอดฮิตในเชียงใหม่สำหรับสาวๆหนุ่มๆที่ต้องการกระชับสัดส่วน
การรักษากรชับสัดส่วนและสลายเซลลูไลท์ด้วยระบบ Endermology
Endermology เป็นเครื่องมือสำหรับดูดและกลิ้งบนผิวหนัง เพื่อทำให้ผิวหนังกระชับ รบรอยย่น ทำให้รูปร่างดูดีขึ้น และลบรอยที่เกิดจากเซลลูไลท์ การทำงานของเครื่องอาศัยลูกเลื่อนสองอัน เพื่อบีบและนวดผิวหนังให้เป็นรอนโผล่ขึ้นมา และมีเครื่องดูดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ในการทำแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 35 นาทีขึ้นกับว่ามีปัญหากับร่างกายส่วนไหน หากทำทั่วร่างกายจะเริ่มที่หลังก่อน สะโพก ต้นขา ขา และหน้าท้อง
ความรู้สึกระหว่างทำ
ระหว่างทำจะรู้สึกเหมือนการนวดแบบกดลึกและจะรู้สึกผ่อนคลายมาก และสามารถปรับเครื่องเพื่อให้เหมาะสมสำหรับแต่ละคน เครื่องนี้มีความปลอดภัยสูงไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย
วิธีดูดไขมันและ Endermology
การดูดไขมันเป็นการดูดไขมันส่วนที่ต่ำกว่าเซลลูไลท์ การดูดไขมันมิได้ทำให้เซลลูไลท์ลดลงแต่ดูดไขมันออกทำให้สามารถลดสัดส่วนของร่างกายได้ แต่การทำ Endermologie จะเป็นการลดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวดูดีขึ้น และมีความปลอดภัยสูง
ใช้เวลานานเท่าใดจึงได้ผล
การทำให้ทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 10 สัปดาห์หลังจากนั้นให้กระทำทุกเดือนเพื่อมิให้เกิดเซลลูไลท์ นอกจากนั้นต้องควบคุมอาหาร ดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกาย นอกจากนั้นยังสามารถทำที่ใบหน้าได้ด้วย
ผลลัพท์หลังการทำ Endermology
ครั้งแรกที่ทำ
1. สามารถกําจัดไขมันปกติและก้อนไขมันหนาได้มากถึง 70%
2. ขจัดอาการผิวเปลือกส้มให้เรียบเนียนขึ้น 54%
3. ผิวกระชับขึ้น 61%
4. รอบเอวลดลงทันที 3-4 cm. ใน 3 ครั้ง
ทั้งนี้ผลลัพท์ของการทำ Endermology ล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลหลังการทำ
ผลลัพท์ใน12 ครั้งที่ทำ
1. รอบเอวลดลงอย่างน้อย 5.2 cm.
2. สามารถขจัดผิวเปลือกส้มได้ 99%
3. ผิวเรียบเนียนขึ้น 82%
4. ผิวกระชับขึ้น 71%
ทั้งนี้ผลลัพท์ของการทำ Endermology ล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลหลังการทำ