จี้ไฝ ติ่งเนื้อ รักษาฝ้า กระ หูด พรีมาดอนนาคลินิก เชียงใหม่

Facebook Instagram

แก้สาเหตุไขมันหน้าท้องกับพรีมาดอนน่าคลินิก เชียงใหม่


แก้สาเหตุไขมันหน้าท้องกับพรีมาดอนน่าคลินิก

แก้สาเหตุไขมันหน้าท้องกับพรีมาดอนน่าคลินิก

แก้สาเหตุไขมันหน้าท้องกับพรีมาดอนน่าคลินิก

   ไขมันหน้าท้องเป็นเหตุเริ่มต้นของโรคต่างๆ อาธิความอ้วน โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง แถมยังทำให้เกิดปัญหาขาดความมั่นใจเพราะไขมันที่สะสม ในวันนี้ทางพรีมาดอนน่าคลินิกขอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุปัญหาไขมันหน้าท้อง เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงปัญหาของโรคต่างๆ

1) กรรมพันธุ์

   สังเกตง่าย ๆ จากคนในครอบครัวของเรา หากแม่ ป้า น้า อา ใครมีรูปร่างทรงแอปเปิลหรือลูกแพร์ นั่นหมายความว่าเราก็จะมีรูปร่างที่ไม่แตกต่างจากคนเหล่านั้น เนื่องจากมียีนเก็บสะสมไขมันเก่งอยู่กับตัว ทำให้เป็นคนที่อ้วนได้ง่าย และไขมันก็มักจะมาสะสมอยู่ที่หน้าท้อง สะโพก ต้นขา มากกว่าที่อื่นๆ ดังนั้นคนที่ได้รับกรรมพันธุ์นี้มายิ่งต้องระวังเรื่องอาหารการกินของตัวเองให้ดี พร้อมทั้งต้องหมั่นออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

2) ฮอร์โมน

   ในสาว ๆ วัยทองนั้นจะมีระดับฮอร์โมนที่แกว่ง ๆ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงและจากความเสื่อมของร่างกาย โดยจะมีระดบฮอร์โมนเอสโทรเจน ที่ต่ำลง ส่งผลให้ระบบเผาผลาญอ่อนแอลงด้วย จึงทำให้อ้วนขึ้นได้ง่าย สังเกตได้จากไขมันที่เริ่มพอกพูนตรงสะโพก ก้น และหน้าท้อง ดังนั้นควรดูแลรูปร่างด้วยการออกกำลังกายด้วยการเล่นเวตเทรนนิ่ง หรือออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเพื่อลดไขมันที่พอกพูน ก็จะช่วยให้มีรูปร่างที่ดีขึ้นได้

3) โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ

   ไขมันหน้าท้องอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย เช่น เป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) โดยภาวะนี้จะทำให้ผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ส่งผลให้มีขนดก ประจำเดือนผิดปกติ เป็นสิว และอ้วนลงพุงได้ ซึ่งอาจรักษาได้ด้วยการกินยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมนเพศ และควรต้องออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งควบคุมอาหารไปด้วยจึงจะสามารถลดไขมันหน้าท้องได้

4) พักผ่อนไม่เพียงพอ

   สำหรับคนที่มีพฤติกรรมนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำ ให้ระวังไขมันหน้าท้อง เพราะการที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน ทั้งระดับฮอร์โมน ระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้อยากทานอาหารรสหวาน และอาหารขยะมากขึ้น จนในที่สุดก็มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง จนกลายเป็นคนอ้วนลงพุง

5) ความเครียด

   ความเครียดเป็นสาเหตุที่ร้ายกาจที่สุดสามารถพาไปสู่ความอ้วนได้ เพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด คือ ฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ทำให้เกิดความอยากทานอาหารที่มีรสหวาน เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย อีกทั้งฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้ยังไปกระตุ้นให้ไขมันในร่างกายกระจายไปยังเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดไขมันหน้าท้องและไขมันในช่องท้องได้

6) ขนมขบเคี้ยวและน้ำหวาน

   เค้ก ขนมปัง รวมทั้งขนมขบเคี้ยวอื่น ๆ ไม่ได้มีแค่น้ำตาล แต่ยังเปี่ยมไปด้วยแป้งและโซเดียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เมื่อทานเข้าไปในร่างกายแล้ว จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และโซเดียมจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ รวมทั้ง กาแฟเย็น ชาเย็น ชาเขียว นม หรือน้ำหวานต่าง ๆ ที่ดื่มกันอยู่ทุกวัน มีปริมาณน้ำตาลสูงเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ หากดื่มเข้าไปก็จะสะสมเป็นไขมันหน้าท้องเช่นกัน

7) แอลกอฮอล์

   แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง เมื่อดื่มเข้าไปจะส่งผลให้ไขมันเข้าไปสะสมที่หน้าท้องมากเป็นพิเศษ จากการศึกษาพบว่า อาสาสมัครที่ดื่มเก่งจะมีรอบเอวที่หนา และมีพุงมากกว่าอาสาสมัครที่ไม่ค่อยดื่มหรือไม่ดื่มเลย ดังนั้นเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีควรหันมาดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด

8) ไขมันทรานส์

   ไขมันทรานส์ คือ ไขมันชนิดเลวที่มีอยู่ในอาหารจำพวก เค้ก คุกกี้ เนย อาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์ติดมัน และอาหารประเภททอด ซึ่งอาหารเหล่านี้จะมีไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัวอยู่สูงมาก หากทานเข้าไปมาก ๆ และไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็จะสะสมที่หน้าท้อง ดังนั้นควรหันมาเลือกทานไขมันชนิดดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ได้แก่ น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะกอก อาหารประเภทปลา และถั่วชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

9) ไม่ออกกำลังกาย

   การไม่เคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิดที่หน้าท้อง เนื่องจากปริมาณแคลอรีที่รับเข้าไปมีมากกว่าปริมาณแคลอรีที่ถูกเผาผลาญ จึงทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายขึ้นและทำให้ลงพุงในที่สุด ดังนั้นควรหากิจกรรมทำเพื่อให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหว เช่น ทำงานบ้าน เดินขึ้น-ลงบันได เดินเล่น หรือออกกำลังกายง่าย ๆ ขยับแข้ง ขยับขาให้ได้ทุกวัน เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

10) ทานโปรตีนน้อยเกินไป

   การทานโปรตีนน้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะทำให้ร่างกายรู้สึกหิวบ่อย ส่งผลให้อยากกินจุบจิบมากขึ้น และตามมาด้วยการมีไขมันหน้าท้องนั่นเอง ดังนั้นควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น ถั่วเปลือกแข็ง เนื้อปลา เต้าหู้ เนื้อสัตว์ไร้มัน และไข่ไก่ เป็นต้น

11) แบคทีเรียในลำไส้ไม่สมดุล

   ในลำไส้จะมีแบคทีเรียที่ดีและไม่ดีอาศัยอยู่ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ด้วย แต่หากแบคทีเรียในลำไส้เกิดความไม่สมดุลขึ้นมา แบคทีเรียชนิดไม่ดีก็จะส่งผลต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะการขับถ่าย การเผาผลาญ และระบบภูมิคุ้มกันอาจลดประสิทธิภาพลง ส่งผลให้เกิดไขมันสะสมที่หน้าท้องและร่างกายส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าปกติ รวมทั้งกระทบต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย

12) ทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารไม่เพียงพอ

   หากไม่ทานผักหรือผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารที่เพียงพอ ก็จะทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องผูก และเกิดการสะสมไขมันหน้าท้อง เส้นใยอาหารเป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ ดังนั้นควรทานผักและผลไม้ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายปราศจากไขมันส่วนเกิน สามารถช่วยลดพุงลดโรคได้

   โดยบทความดังกล่าวเป็นเพียงการแนะนำเล็กน้อยเพื่อจัดการกับหน้าท้องใหญ่ ซึ่งทางพรีมาดอนน่าคลินิกสถาบันดูแลความงามทั่วเรือนร่างพร้อมที่จะให้บริการดูแลผิวพรรณรวมถึงการลดน้ำหนักที่ถูกวิธีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมายาวนานสิบกว่าปีพร้อมที่จะคอยดูแลและบริการทุกๆท่าน