จี้ไฝ ติ่งเนื้อ รักษาฝ้า กระ หูด พรีมาดอนนาคลินิก เชียงใหม่

Facebook Instagram ENG | CHA

วิธีการดูแลรักษาหูดกับพรีมาดอนน่าคลินิก เชียงใหม่


วิธีการดูแลรักษาหูดกับพรีมาดอนน่าคลินิก

วิธีการดูแลรักษาหูดกับพรีมาดอนน่าคลินิก

วิธีการดูแลรักษาหูดกับพรีมาดอนน่าคลินิก

   สาเหตุของหูดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าปาโปวา โดยเชื้อไวรัสจะกระตุ้นทำให้ส่วนผิวหนังของเซลล์หนังกำพร้าค่อย ๆ หนาตัวหรือแข็งตัวขึ้น มีระยะฟักตัวราว 1-6 เดือน ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นหูด คือ ผู้ที่มีระบบความต้านทานของโรคต่ำ ไม่ค่อยสบายบ่อย ๆ ร่างกายอ่อนแอ ทำให้มีการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย หูดสามารถติดต่อได้ทั้งทางสัมผัสผิวหนังและการมีเพศสัมพันธ์ ขึ้นอยู่กับชนิดของหูด ในที่นี่เราขอพูดถึงเฉพาะหูดที่เกิดขึ้นทางสัมผัสผิวหนัง

ข้อควรรู้ เกี่ยวกับชนิดของหูด

หูดจะมีความแตกต่างกันตามขนาดของหูด แบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้

1. หูดทั่วไป

   มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดนูนแข็งขึ้นจากผิวหนังชั้นกำพร้า ลักษณะผิวค่อนข้างขรุขระ มักขึ้นบริเวณนิ้วมือหรือรอบ ๆ บริเวณเล็บ เนื่องจากมีแผลบ่อย อาจเกิดจากการฉีกของหนังบริเวณรอบเล็บ จึงทำให้ติดเชื้อหูดได้ง่าย

2. หูดชนิดแบน

   มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็กแข็ง มีลักษณะผิวเรียบ อาจมีสีชมพู สีน้ำตาลหรือออกเหลือง สามารถขึ้นได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย ส่วนมากจะพบได้บริเวณบนใบหน้า

3. หูดฝ่าเท้า

   มีลักษณะเป็นไต แผ่นหนาแข็ง มีขนาดใหญ่กว่าหูดแบบธรรมดา มีรอยปื้นใหญ่ พบได้บ่อยบริเวณฝ่าเท้า และข้างใต้ฝ่าเท้า หูดชนิดนี้มีผลกระทบต่อการเดิน ทำให้ผู้สูงอายุเดินเหินไม่สะดวกและเจ็บบริเวณฝ่าเท้า

การรักษาโรคหูด

1.ใช้วิธีทายากัดหูด

   ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ยาประเภทนี้จะมีส่วนผสมกรดซาลิไซลิกและกรดแลกติก ใช้เวลารักษาประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่หายและหูมีขนาดใหญ่ขึ้นหลายจุด หรือเริ่มมีอาการเจ็บ ผู้สูงอายุควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

2.รักษาด้วยความร้อน

   โดยการจี้ออกด้วยไฟฟ้า อาจมีประสิทธิภาพดีกว่าการจี้เย็น แต่จะเจ็บและมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้มากกว่าการจี้เย็น

3.การจี้ด้วยเลเซอร์

   แพทย์จะใช้แสงเลเซอร์จี้ที่ตัวหูด หลังจากทำการรักษา บริเวณที่เป็นหูดจะเกิดแผลและเป็นสะเก็ดราว 1 สัปดาห์แล้วหูดก็จะค่อย ๆ จางหายไป

4.การจี้ด้วยความเย็นหรือไนโตรเจนเหลว
   หากหูดมีแผ่นหนาแพทย์จะทำการฝานก่อนการจี้ หลังการจี้ 1 วัน หูดที่มีการจี้จะบวมพองเป็นตุ่มน้ำ และพองตัวเป็นถุงน้ำ อาจมีเลือดออกอยู่ข้างใน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ตกสะเก็ดและหายไป ราว 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้จำนวนครั้งที่จี้เพื่อให้หายขาดขึ้นอยู่กับขนาดของหูด และลักษณะของหูด

การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคหูด

   การดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อเป็นโรคหูด ผู้สูงอายุไม่ควรแกะ เกา หรือสัมผัสบริเวณที่เป็นหูด เพราะอาจทำให้ผิวหนังบริเวณอื่น ๆ เกิดการติดเชื้อและเป็นหูดเพิ่มขึ้นใหม่ อีกทั้งควรดูแลบริเวณที่เป็นหูดให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่เชื้อได้

   อย่างไรก็ตามการป้องกันภายหลังจากรักษาอาจทำได้ยาก เนื่องจากโรคดังกล่าวเกิดจากภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเลี่ยงได้บ้างด้วยการไม่สัมผัสหูดทั้งของตนเอง หรือของผู้อื่น การใส่รองเท้าแบบเดินในห้องน้ำสาธารณะ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่เท้าได้ ห้ามใช้เครื่องมือที่สำหรับตัดหรือเฉือนหูดร่วมกับผู้อื่น

   อีกทั้งไม่ควรใช้ธูปจี้หรือการใช้ยากัดหูดแรงๆ ซึ่งเป็นความหลงเชื่อในแบบผิด ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังผู้สูงอายุ เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดอาการอักเสบอีกด้วย

   อย่างไรก็ตามการรักษาหูด ต้องขึ้นอยู่กับสภาพและขนาดความเข้มของลูกค้าแต่ละบุคคล วิธีการรักษาหูด จึงไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเข้ามาปรึกษาการรักษาหูด ที่ถูกวิธีและเหมาะสมกับลูกค้า ทางพรีมาดอนน่าคลินิก ก็มีบริการรักษากระพร้อมไว้ในบริการลูกค้า โทร 053-400862