จี้ไฝ ติ่งเนื้อ รักษาฝ้า กระ หูด พรีมาดอนนาคลินิก เชียงใหม่

Facebook Instagram

ลดสาเหตุของการเกิดฝ้ากับพรีมาดอนน่าคลินิก เชียงใหม่


ลดสาเหตุของการเกิดฝ้ากับพรีมาดอนน่าคลินิก

ลดสาเหตุของการเกิดฝ้ากับพรีมาดอนน่าคลินิก

ลดสาเหตุของการเกิดฝ้ากับพรีมาดอนน่าคลินิก

      ฝ้า เป็นปัญหาของผิวหน้า ที่ค่อนเป็นวงกว้าง และวิธีการรักษานั้นค่อนข้างยาก เพราะเนื่องจากตัวฝ้ามันอยู่ลึกในชั้นผิวหนัง และปัจจัยของการเกิดฝ้านั้นมีอยู่หลายปัจจัย ในวันนี้ ขอเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดฝ้า

  ฝ้าเกิดการจากผลิตเม็ดสีหรือที่รู้จักกันในชื่อของเมลานินที่มากเกินไปในบางบริเวณของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา โดยมักจะเกิดขึ้นบริเวณที่โดนแดด ได้แก่ โหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง โดยสาเหตุของการเกิดฝ้ามีดังนี้

  1. ฝ้าฮอร์โมน เมื่อมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไป เช่น จากยาคุม หรือ ช่วงที่ตั้งครรภ์ จึงมีการกระตุ้นสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้เกิดฝ้าขึ้นหรือกระตุ้นให้เข้มกว่าเดิม แต่ไม่ต้องกังวลเนื่องจากถ้ามีการปรับสมดุลที่เหมาะสมแล้วฝ้ามีโอกาสจางลงและหายได้
  2. ฝ้าแดด เป็นปัญหาที่พบมากในคนไทย หรือคนเอเชียที่อยู่ในต่างประเทศจะโดนแดดโดยเราไม่รู้เพราะอากาศที่เย็นสบาย แต่ในแสงแดด มี ในแสงแดดจะมี UV-B และ UV-A เป็นที่น่าโชคไม่ดีที่คนไทย และ ชาวเอเชีย มีโอกาสโดนกระตุ้นฝ้าได้มากกว่าคนผิวขาวไม่ได้ป้องกันแสงอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 - 14.00 น. แสงแดดจะจัด
  3. ฝ้าจากเครื่องสำอาง เนื่องจากเครื่องสำอาง เช่น ครีมหน้าขาวใสเร็ว สารเคมี สารกันบูด หรือสารปรอท ตะกั่ว อาจมีสารที่ทำให้เกิดการกระตุ้นฝ้าได้ง่ายจะเห็นว่าตอนแรกทาไปหน้าจะขาวเรียบเนียน พอทานานๆขึ้น หน้าจะเริ่มเป็นคนแพ้ง่าย แต่พอหยุดใช้หน้ายิ่งแย่ สุดท้ายจะเห็นมีฝ้าขึ้นทาเท่าไหร่ไม่หายและมีเส้นเลือดฝอยขึ้นผิวหน้าทำให้หน้าแดง เป็นปัญหาที่หมออยากแก้ไขเรื่องการเลือกใช้เครื่องสำอางหรือสารหน้าขาวเพราะฝ้าชนิดนี้รักษาได้ยากที่สุดและติดทนนาน โดยถ้าเป็นฝ้าฮอร์โมนและฝ้าแดด มีโอกาสหายได้หรือจางลงจนแทบไม่เห็น โอกาสเป็นซ้ำน้อย แต่ฝ้าจากเครื่องสำอาง จะรักษายากครับต้องใช้เวลา
  4. ฝ้าเข้มจากเลเซอร์ เนื่องจากเลเซอร์บางชนิดมีโอกาสทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ถ้าหยุดทำ ซึ่งลักษณะคล้ายๆกับฝ้าจากเครื่องสำอาง คือ จางลงในช่วงแรกหลังจากนั้นจะเข้มขึ้น ฝ้าชนิดนี้ก็รักษายากกว่าฝ้าฮอร์โมนและฝ้าแดด แนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดีครับ
  5. ฝ้าจากความเครียด โดยเมื่อเราทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอจะมี ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองทำให้ฝ้าดูชัดขึ้น เราจะเห็นว่าผิวหน้าดูดำคล้ำขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล

การรักษาฝ้าจึงต้องดูองค์ประกอบโดยรวมเพื่อให้ฝ้าจางลงหรือ หายไปในระยะยาวและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำได้ง่าย

     ฝ้าที่เป็นชนิดตื้นที่อยู่บนชั้นหนังกำพร้าจะรักษาได้ง่ายกว่าฝ้าลึกที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง แต่มักพบว่าเป็นแบบผสมจะรักษายากและกลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายซึ่งต้องรักษาแบบองค์รวม

ดังนั้นการดูแลรักษาฝ้าจึงควรดูเป็นองค์รวม ทั้ง การใช้เลเซอร์ เครื่องสำอาง และการปรับสมดุลในร่างกาย โดยการรักษาหลักและได้ผลดีคือการรักษาด้วยเลเซอร์แต่ก็ต้องเลือกที่เหมาะสมกับฝ้าไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ