จี้ไฝ ติ่งเนื้อ รักษาฝ้า กระ หูด พรีมาดอนนาคลินิก เชียงใหม่

Facebook Instagram

ลดน้ำหนัก เชียงใหม่


ลดน้ำหนัก

ปัจจุบันมีผู้สนใจเรื่องลดความอ้วนกันมาก เพราะต่างก็ตระหนักถึงผลร้ายของความอ้วนที่มีผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ ไม่ว่าหญิงหรือชาย คนหนุ่มสาวหรือคนแก่ และพวกวัยรุ่นทั้งหลายพากันไปเป็นลูกค้าของสถานบริการลดความอ้วนเพิ่มจำนวนขึ้นผิดหูผิดตาทีเดียว ถ้าจะพูดว่าธุรกิจสถานบริการลดความอ้วนเฟื่องฟูที่สุดในยุคนี้เห็นจะไม่ผิดนัก ในประเทศไทยเองก็มีทั้งสถานบริการลดความอ้วนที่ดำเนินงานโดยคนไทย และสถานบริการลดความอ้วนของต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาอยู่มากมาย มีการโฆษณากันอย่างกว้างขวางในประสิทธิภาพของแต่ละแห่ง เป็นต้นว่า ลดไขมันส่วนเกิน ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส ฟังแล้วชวนฉงน ทั้งน่าสนใจมาก เพราะง่ายดี...แต่จะให้ประสิทธิผลจริงหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทำไมคนในยุคนี้จึงอ้วนกันนัก เมื่อพูดถึงคนอ้วนก็อดจะนึกถึงชาวอเมริกันไม่ได้ เพราะชาวอเมริกันนั้นถือว่า เป็นพวกที่อ้วนได้มากและอ้วนได้เร็วกว่าใครๆ สถิติในปัจจุบันยกให้ชาวอเมริกันเป็นชาติที่อ้วนที่สุดในโลก (เฉลี่ยจากพลเมืองทั้งหมด) นักสถิติยังพบว่า หลังจากอายุ 20 ปีขึ้นไปแล้ว ชาวอเมริกันจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยคนละ ½-1 ½ ปอนด์ทุกๆปี และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็เป็นไขมันทั้งสิ้น สาเหตุของความอ้วนมาจากความสะดวกสบายที่มีมากขึ้น จะทำอะไรก็ล้วนมีเครื่องผ่อนแรงให้แทน จะไปไหนก็นั่งแต่รถยนต์ ภายในรถยนต์เองก็เต็มไปด้วยเครื่องผ่อนแรง อยากให้กระจกขึ้นลงก็เพียงกดปุ่ม ไม่ต้องออกแรงหมุนให้เมื่อย เครื่องซักผ้าเอย เครื่องดูดฝุ่นเอย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้ชาวอเมริกันอ้วนกันได้ง่ายๆ

นายแพทย์ยอร์จ แบล็กเบอร์น ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องอ้วนได้ทำการศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้คนเราอ้วนขึ้น พบว่ามีปัจจัยที่สำคัญอยู่ 7 ประการดังนี้ กรรมพันธุ์มีอิทธิพลอยู่ ร้อยละ 10 การเลี้ยงดูในวัยเด็ก ร้อยละ 10 จำนวนของเซลล์ไขมันในร่างกาย ร้อยละ 10 พฤติกรรมการกิน ร้อยละ 20 บุคลิกและวิถีการดำเนินชีวิต ร้อยละ 20 อายุ ร้อยละ 15 การออกกำลังกาย ร้อยละ 15

นอกจากนี้ความเหงาก็เป็นเหตุให้อ้วนได้ หลายคนชอบกินแก้เหงาเพราะแก้ได้ทั้งเหงาใจและเหงาปาก พอเหงาขึ้นมาไม่รู้จะทำอะไร หมุนไปหมุนมาก็เปิดตู้เย็น เดินไปเดินมาก็เลยเลี้ยวเข้าครัว หรือบางคนก็ชอบแก้เหงาด้วยการทำขนมหรือทำกับข้าว เหตุนี้หลายคนจึงอ้วนเพราะความเหงา จะเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้อ้วนนั้นมีอยู่มากมาย บางอย่างก็เห็นได้ชัดเจน บางอย่างก็เป็นผลทางอ้อม ความจริงยังมีเหตุที่ทำให้ร่างกายอ้วนใหญ่ได้อีกอย่างหนึ่ง แต่มีไม่มากนักและแก้ไขยาก เป็นเรื่องของแพทย์โดยเฉพาะ นั่นคือ ความอ้วนที่เกิดจากโรค เช่น มีความผิดปกติในสมอง หรือความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมน เป็นต้น

อันตรายจากความอ้วน การที่ผู้คนจำนวนมากมายพยายามลดความอ้วนกันอยู่ทุกวันนี้ มีเหตุผลอยู่หลายประการ เช่น เพื่อให้มีรูปร่างเป็นที่ต้องตาต้องใจผู้พบเห็น ทำให้แต่งตัวได้ง่ายและดูสวยงาม สะดวกในการหาซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปใช้ ตลอดจนช่วยให้มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ เรื่องของสุขภาพอนามัยวงการแพทย์ในปัจจุบันนี้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า การมีร่างกายที่อ้วนเกินไปนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอนที่สุด แม้ไขมันจะเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อยู่ไม่น้อย แต่การที่มีปริมาณของไขมันมากเกินไปย่อมมีผลเสียแน่นอน

ผู้เขียนได้ลองรวบรวมข้อเสียและอันตรายจากภาวะที่อ้วนเกินไปจากหนังสือหลายๆเล่ม รวมทั้งที่ได้พบในฐานะที่เป็นแพทย์และตัวเองก็เคยเป็นคนอ้วนอยู่ระยะหนึ่ง พอสรุปได้ว่า การที่อ้วนเกินไปนั้นมีข้อเสียอยู่หลายประการ คือ

  • 1.จากสถิติพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานถึงร้อยละ 20 จะมีโอกาสหัวใจวายมากขึ้นถึง 3เท่า
  • 2. คนอ้วนจะมีโรคความดันโลหิตสูงได้มากกว่า
  • 3. คนอ้วนมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่า
  • 4. คนอ้วนเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี มากกว่าคนผอม
  • 5. มีการศึกษาพบว่าผู้ที่อ้วนมาก คือ มีน้ำหนักตัวเกินเฉลี่ยถึงร้อยละ 40 ถ้าเป็นผู้หญิงจะมีโอกาสเกิดมะเร็งของมดลูก รังไข่ และเต้านม ได้มากขึ้น ถ้าเป็นผู้ชายก็จะเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ และต่อมลูกหมากได้มากกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ
  • 6. คนอ้วนจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับข้อได้มากกว่า โดยเฉพาะข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า และที่ตัวเท้าเอง เพราะข้อเหล่านี้จะต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติไม่ว่าจะยืนหรือเดินก็ตาม
  • 7. คนอ้วนจะเกิดเส้นเลือดขอดได้มากกว่า
  • 8. หญิงที่อ้วนมากจะตั้งครรภ์ได้ยากกว่า และจะมีปัญหาเกี่ยวกับการคลอดมากกว่าด้วย
  • 9. ผู้ที่อ้วนมากจะมีปัญหาทางเพศสัมพันธ์ได้ไม่ว่าชายหรือหญิง หากไม่ทราบวิธีแก้ไข ความสุขทางเพศจะน้อยลงมาก
  • 10. คนอ้วนจะประสบอุบัติเหตุได้บ่อยกว่าผู้ที่มีรูปร่างปกติ เพราะคนอ้วนมักจะอุ้ยอ้ายและคล่องแคล่วน้อยกว่า โอกาสพลาดพลั้งจึงมากกว่า และเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็มักจะรุนแรงกว่า และรักษายากกว่าด้วย
  • 11. เมื่อมีความจำเป็นต้องตรวจร่างกาย แพทย์จะตรวจร่างกายของคนผอมได้ง่ายกว่าคนอ้วนมาก เพราะไขมันจะมาบดบังทำให้ฟัง หรือคลำหาสิ่งผิดปกติได้ยาก แม้แต่ภาพเอกซเรย์ของคนอ้วนก็ยังไม่ชัดเท่าของคนผอม ยิ่งถ้าต้องทำการผ่าตัดด้วยแล้ว (โดยเฉพาะเกี่ยวกับช่องท้อง) จะทำยากกว่ามากมาย
  • 12. เมื่อคนอ้วนต้องเป็นผู้ป่วย การพยาบาลดูแลรักษาจะมีความยุ่งยากมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นโรคที่เคลื่อนไหวเองไม่ได้ เช่น อัมพาต จะเพิ่มปัญหาให้กับผู้ดูแลอีกมากมายทีเดียว แม้เมื่อถึงแก่กรรมแล้ว ศพของคนอ้วนก็ยังจัดการได้ยากกว่าคนผอม
  • 13. บ่อยครั้งที่คนอ้วนเป็นที่รังเกียจของสังคม เช่น การขึ้นลงหรือนั่งในรถประจำทาง แม้ในรถโดยสารหรือบนเครื่องบินก็ไม่มีใครอยากจะนั่งใกล้คนที่อ้วนๆ
  • 14. งานอาชีพบางอย่างอาจไม่เปิดโอกาสให้คนอ้วน เช่น เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน งานประชาสัมพันธ์ คนนำเที่ยว(ไกด์) หรือการเป็นนักแสดงคนอ้วนก็มักถูกกำหนดให้เป็นคนรับใช้มากกว่าที่จะเป็นนางเอกหรือพระเอก (ยกเว้นจะไปแสดงหนังแขก)
  • 15. ข้อสุดท้ายนี้เป็นปัญหาที่ใหม่มากสำหรับคนอ้วนหลายๆคน นั่นคือ ปัญหาทางจิตใจ เราอาจพบว่ามีคนอ้วนบางคนที่มีจิตใจแจ่มใส หน้าตายิ้มแย้ม และอารมณ์ดี แต่ก็มีคนอ้วนอีกมากมายที่ไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง และถือเอาความอ้วนมาเป็นปมด้อยประจำตัว กลายเป็นคนคิดมากสารพัดอย่าง ใครมองหน้าหน่อยก็คิดว่าเขาเยาะเย้ย เห็นใครคุยกันแล้วมองมาก็คิดว่าเขากำลังนินทา ยิ่งถ้ากำลังกินอะไรอยู่แล้วมีใครมองมาก็คิดว่าเขากำลังนึกสมเพชเรา หรือเขาคงกำลังพูดในใจว่า “โธ่เอ๋ย เป็นตุ่มอย่างนี้แล้วยังจะกินอีก” อะไรทำนองนี้ ความไม่พอใจหรือมีปมด้อยในรูปร่างของตนเองนี้ ทำให้กลายเป็นคนที่หาความสุขไม่ได้ หงุดหงิดและเครียด หลายคนก็เลยดับความเครียดด้วยการกิน ผลก็คือยิ่งอ้วนขึ้น และยิ่งเครียดมากขึ้น หลงเข้าสู่วงจรอันเลวร้ายโดยไม่รู้ตัว ที่กล่าวมานี้ ก็เป็นเหตุผลอย่างเพียงพอที่เราจะต้องเริ่มลดน้ำหนักตัวส่วนเกินอย่างจริงจังแล้ว

 

บทความจากนิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 93
เดือน/ปี: มกราคม 2530
คอลัมน์: โรคน่ารู้
นักเขียนหมอชาวบ้าน: รศ.นพ.ดำรง กิจกุศล